#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์# ถึงยะลาแล้ว! 34 นศ.ไทยจากปากีสถาน ตรวจเข้ม-กักตัว 14 วัน ด้านแรงงานไทยในมาเลย์จ่อเข้าประเทศแน่นด่าน

#เดย์ไทม์นิวส์ออนไลน์#

ถึงยะลาแล้ว! 34 นศ.ไทยจากปากีสถาน ตรวจเข้ม-กักตัว 14 วัน ด้านแรงงานไทยในมาเลย์จ่อเข้าประเทศแน่นด่าน

แรงงานไทยในมาเลย์เดินทางกลับเข้าประเทศแน่นด่านชายแดนใต้ กว่า 300 คน ด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาต หวั่นนำเชื้อมาแพร่เพิ่ม ขณะที่นักศึกษาไทยจากปากีสถาน 34 ราย เดินทางถึงยะลาแล้ว สสจ. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองตามมาตรการอย่างเข้มข้น

นักศึกษาไทยจากประเทศปากีสถาน จำนวน 34 ราย ได้เหมารถโดยสารประจำทาง จำนวน 2 คัน เดินทางจากสนาบินสุวรรณภูมิ ถึงจังหวัดยะลา เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (30 มี.ค.63) โดยผ่านจุดตรวจที่ด่านบ้านคลองทรายใน ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเมืองยะลา ได้นำขบวนรถของนักศึกษาไทยจากปากีสถาน ไปยังศูนย์สังเกตอาการระดับอำเภอเมืองยะลา ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขชายแดนภาคใต้

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อกักตัวตรวจสุขภาพ คัดกรอง 14 วัน หากพบว่ามีภาวะเสี่ยง ก็จะตรวจเฉพาะทางหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และคัดแยกนักศึกษาที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอต่างๆ กลับไปกักตัวเอง 14 วัน ที่ศูนย์สังเกตอาการระดับอำเภอของตนเอง

สำหรับนักศึกษาที่เดินทางกลับมาในครั้งนี้ มีนักศึกษาที่มีภูมิลำเนา จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อรับตัวกลับไปกักตัวเอง 14 วันต่อไปด้านนายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา (สสจ.ยะลา) เปิดเผยว่า นักศึกษาไทยในปากีสถาน ที่เดินทางกลับจังหวัดยะลาจำนวนนี้ ทาง สสจ.ยะลา ได้เตรียมพร้อมมาตรการในดูแลนักศึกษากลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เอาไว้แล้ว

โดยมีการตรวจสุขภาพเบื้องต้นว่ามีโอกาสเสี่ยงหรือไม่ ถ้ามีโอกาสติดเชื้อ ก็จะตรวจคัดแยกอย่างละเอียดอีกครั้ง และถ้ามีผลเป็นบวกก็จะต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลทันที แต่ถ้าไม่พบการติดเชื้อก็จะเข้าศูนย์สังเกตอาการระดับอำเภอ เพื่อกักตัวเอง 14 วัน ตามภูมิลำเนาของนักศึกษาแต่ละคน ซึ่งมีการเตรียมพร้อมไว้แล้ว หากไม่มีอาการก็สามารถกลับไปอยู่ที่บ้านได้ตามปกติอย่างไรก็ตาม จากการประเมินแล้วก็รู้สึกเป็นห่วง ไม่รู้ว่าติดเชื้อมาหรือไม่ เพราะการติดเชื้อสามารถแพร่ได้ก่อนมีอาการ จึงอยากขอร้องน้องๆ ว่า เมื่อเดินทางกลับไปที่บ้านมีโอกาสเสี่ยงที่อาจติดคนในครอบครัว ยิ่งเจอผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง เราต้องสร้างวินัยในกลุ่มที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ประเทศกลุ่มเสี่ยง ถ้าหากเราไม่มีมาตรการที่เข้มข้น เราจะเจอกับโรคนี้อีกยาว กว่าจะกลับมาเป็นปกติก็หลายเดือน

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดยะลาได้มีการตั้งเป้าไว้ 2 เดือน เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าหากเรามีวินัยช่วยกัน ทิศทางต่างๆ ของมาตรการที่จังหวัดยะลา คาดการไว้ น่าจะดีขึ้น ขณะที่สถานการณ์ด่านชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ซึ่งในขณะนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ทั้งทหาร และตำรวจ ต่างเฝ้าระวังบริเวณด่านที่ยังคงปิดอยู่ในฝั่งไทยอย่างเข้มงวด

หลังจากที่นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีคำสั่งขยายระยะเวลาปิดประเทศ ออกไปอีก 2 สัปดาห์ หรือถึงวันที่ 14 เมษายนนี้ จึงทำให้มีแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย กว่า 300 คน มายืนต่อแถว เพื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย อย่างไรก็ตาม

ทางการไทยยังไม่อนุญาตให้แรงงานกลุ่มนี้เข้าประเทศ เพราะเกรงว่าจะนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดเพิ่ม ทั้งนี้ คงต้องรอคำสั่งจากทางรัฐบาลอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการกับแรงงานกลุ่มนี้อย่างไรต่อไป

#โควิด-19 จังหวัดยะลา
#ขอบคุณภาพข่าว:สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา#

#เดชา  อุ่นขาว  รายงานข่าว

Related posts